วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

3 ตัวช่วย รวยด้วยหุ้นเทคนิค(ตอนที่10)

3 ตัวช่วยรวยด้วยหุ้นเทคนิค ตอนที่ 9 “วิธีใช้งาน RSI ที่ไม่ถูกต้อง”
Share on Facebook
     บทความนี้เป็นตอนที่ 9 แล้วนะ มีชื่อตอนว่า “วิธีใช้งาน RSI ที่ไม่ถูกต้อง”  ผมไม่แปลกใจเลยที่ทำไมยังมีคนที่เล่นหุ้นเทคนิคมาตั้งนานแต่ก็ยังทำกำไรกันไม่ได้จริง ๆ จัง ๆ ซักที เพราะมีการแนะนำวิธีใช้งาน Indicators ที่ไม่ถูกต้องกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น การใช้งาน Moving Average ที่ไม่ถูกต้อง การใช้งาน MACD ที่ไม่ถูกต้อง และในบทความนี้จะแนะนำวิธีการใช้งาน RSI ที่ไม่ถูกต้องให้ได้รู้จักกัน

     อย่างแรกผมจะแนะนำสัญญาณ 2 ประเภทที่น่าสนใจ จาก RSI ให้ได้รู้จักกันก่อน ได้แก่ สัญญาณ Overbought Oversold  และ  Divergence   จากนั้นก็จะแนะนำวิธีใช้งาน RSi แบบผิด ๆ พร้อมยกตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทำไมถึงใช้งาน RSI แบบนั้นไม่ได้


Overbought / Oversold

     ในการวาดกราฟเส้น RSI นั้น โปรแกรมที่วิเคราะกราฟหุ้น จะมีการลากเส้นแนวนอนของค่า RSI เท่ากับ 30 และ 70 เอาไว้ด้วย และตั้งชื่อพื้นที่ในส่วนที่ RSI มากกว่า 70 ว่าเขต Overbought และตั้งชื่อพื้นที่ในส่วนที่ RSI น้อยกว่า 30 ว่า Oversold


รูปแสดงพื้นที่ Overbought และ Oversold


 

     คำว่า Overbought ได้มีมีการแปลเป็นภาษาไทยว่า “ซื้อมากเกินไป” และคำว่า oversold มีการแปลเป็นภาษาไทยว่า “ขายมากเกินไป”  จึงมีหลายคนตีความว่าถ้า ค่า RSI ขึ้นไปสูงกว่า 70 แปลว่ามีคนซื้อหุ้นมากเกินไปอนาคตหุ้นจะลง ให้ขายหุ้น หรือ เมื่อ RSI มีค่าต่ำกว่า 30 แปลว่ามีคนขายมากเกินไปอนาคตหุ้นจะขึ้น ให้ซื้อหุ้น  ซึ่งเป็นวิธีแปลความหมาย RSI ที่ไม่ถูกต้อง


รูปตัวอย่างแสดงการใช้งาน RSI ที่ไม่ถูกต้องโดยการขายหุ้นเมื่อ RSI > 70 และซื้อหุ้นเมื่อ RSI <30

จากสูตรการคำนวณ RSI

     การที่ RSI มาค่ามากกว่า 70 แปลความหมายได้ว่า ค่า Average Gain / Average Loss มากกว่า 2.333.. หมายความได้ว่าราคาหุ้นขึ้นมาเยอะ มี Momentum เชิงบวกมาก ไม่ได้หมายความว่าราคาหุ้นจะต้องลง

     การที่ RSI มาค่าน้อยกว่า 30 แปลความหมายได้ว่า ค่า Average Gain / Average Loss น้อยกว่า 0.428... หมายความได้ว่าราคาหุ้นลงมาเยอะ มี Momentum เชิงลบมาก ไม่ได้หมายความว่าราคาหุ้นจะต้องปรับตัวขึ้น

การลงมือขายหุ้นทันทีที่ RSI ต่ำลงจนเข้าเขต Oversold หรือลงมือซื้อหุ้นทันที่ที่ RSI เข้าเขต Overbought เป็นวิธีในการใช้งาน RSI ที่ไม่ถูกต้อง


Divergence

     ความหมายของ Divergence ในการวิเคราะห์ Indicators คือ การที่ Indicators ให้ข้อมูลไม่สอดคล้องกับการเคลื่อนที่ของกราฟราคาหุ้น โดยการพิจารณาสัญญาณ Divergence มักจะใช้กับ Indicators ประเภทที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ แรงส่งของราคา (Momentum) และ Indicators ประเภทที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของแนวโน้ม

     ยกตัวอย่างกรณีที่กราฟราคาหุ้นกับกราฟ Indicators ไม่สอดคล้องกัน เช่น  ราคาหุ้นมีการปรับตัวสูงขึ้นแต่ Indicators กลับให้ข้อมูลว่า Momentum หรือแรงส่งของราคาหุ้นในทิศทางขาขึ้นเริ่มอ่อนแรง หรือในทางตรงข้ามกรณีที่ราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงแต่ Indicaotors กลับให้ข้อมูลว่า Momentum หรือแรงส่งของราคาหุ้นในทิศทางขาลงเริ่มอ่อนแรง

     วิธีการพิจารณาสัญญาณ Divergence ที่นิยมคือ การเปรียบเทียบจุดสูงสุดของกราฟราคาหุ้นกับจุดสูงสุดของกราฟเส้น Indicators และการเปรียบเทียบจุดต่ำสุดของกราฟราคาหุ้นกับจุดต่ำสุดของกราฟเส้น Indicators เพื่อดูว่ามีทิศทางเดียวกัน (Convergence) หรือทิศทางไม่สอดคล้องกัน (Divergence)

ในกรณีที่กราฟราคาหุ้นกับกราฟ Indicators ไม่เป็นไปในทางเดียวกัน (Divergence) ได้แก่

1) กรณีที่กราฟราคาหุ้นสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ แต่กราฟ Indicators ประเภท Momentum ไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้เช่นเดียวกับกราฟของราคา ซึ่งแปลความหมายได้ว่า Momentum ที่จะเป็นแรงส่งให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นในครั้งนี้ต่ำลงกว่าก่อนหน้า จึงเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้า ให้เราใกล้ชิดกับกราฟของราคาให้มากขึ้น เพราะในอนาคตราคาหุ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของแนวโน้มจากทิศทางขาขึ้นเป็นทิศทางขาลงแล้วก็เป็นไปได้  (Bearish Divergence : คาดว่าราคาหุ้นน่าจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลง)

2) กรณีที่กราฟราคาหุ้นทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่กกราฟ Indicators ประเภท Momentum ไม่สามารถสร้างจุดต่ำสุดใหม่เช่นเดียวกับกราฟของราคา ก็จะแปลความหมายได้ว่า Momentum ที่จะเป็นแรงส่งให้ราคาปรับตัวลดลงต่อในครั้งนี้เริ่มลดลงกว่าครั้งก่อนหน้า ก็จะเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าให้ติดตามกราฟราคาหุ้นอย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกัน เพราะในอนาคตราคาหุ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของแนวโน้มจากทิศทางขาลงเป็นทิศทางขาขึ้นก็ได้ (Bullish Divergence : คาดว่าราคาหุ้นน่าจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้น)

รูปแสดงตัวอย่างกรณีราคาหุ้นและ Indicators มีสัญญาณ Divergence

กราฟเส้น RSI เป็น Indicators ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Momentum แต่การที่ลงมือขายหุ้นทันทีที่ RSI ส่งสัญญาณ Beraish Divergence หรือลงมือซื้อหุ้นทันทีเมื่อ RSI ส่งสัญญาณ Bullish Divergence เป็นวิธีการใช้งาน RSI ที่ไม่ถูกต้อง เพราะสัญญาณ Divergence เป็นเพียงสัญญาณเตือนล่วงหน้าเท่านั้น ยังไม่ใช่สัญญาณที่จะให้ลงมือซื้อหรือขายหุ้นทันที


ทำไมถึงบอกว่าห้ามซื้อขายทันทีหลังเกิดสัญญาณจาก RSI

     เหตุผลที่ผมห้ามซื้อขายทันทีหลังเกิดสัญญาณ Overbought , Oversold หรือ Divergence จาก RSI เป็นเหตุผลเดียวกับการใช้งานใช้งาน Indicators ตัวอื่น ๆ เช่น  การใช้งาน EMA ที่ไม่ถูกต้อง และการใช้งาน MACD ที่ไม่ถูกต้อง นั่นก็คือ ลงมือซื้อขายด้วยวิธีนี้แล้ว ในระยะยาวจะไม่ได้กำไร และมีโอกาสขาดทุนสูงนั่นเอง

     ลองมาดูรูปตัวอย่าง 4 รูปด้านล่างกันครับ ถ้าตัดสินซื้อหรือขายหุ้นเมื่อเกิดสัญญาณ Overbought หรือ Oversold  หรือ Divergence จาก RSI ทันที คุณอาจจะเจอกับเหตุการณ์ ขายหมู หรือซื้อของแพงก็เป็นไปได้

รูปตัวอย่างแสดงการขายหุ้นเมื่อ RSI อยู่ในเขต Overbought แต่พบว่าราคาหุ้นยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รูปตัวอย่างแสดงการซื้อหุ้นเมื่อ RSI อยู่ในเขต Oversold แต่พบว่าราคาหุ้นยังลดลงอย่างต่อเนื่อง

รูปตัวอย่างแสดงการขายหุ้นเมื่อ RSI เกิดสัญญาณ Bearish Divergenceแต่พบว่าราคาหุ้นยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รูปตัวอย่างแสดงการซื้อหุ้นเมื่อ RSI เกิดสัญญาณ Bullish Divergence แต่พบว่าราคาหุ้นยังลดลงอย่างต่อเนื่อง


สรุป

     จากคำอธิบายและตัวอย่างที่แสดงให้เห็นข้างต้น ขอสรุปเป็นหลักการใช้งาน RSI รวมทั้ง  Indicators ทุกประเภทแบบไม่ถูกต้อง คือ การตัดสินใจลงมือซื้อขายหุ้นโดยใช้สัญญาณจาก RSI หรือ Indicators เพียงอย่างเดียว โดยไม่ดูกราฟราคาหุ้น เป็นการซื้อขายหุ้นโดยใช้ Indicators ที่ไม่ถูกต้อง ครับ  เพราะ …...

ค่าของ  Indicators ถูกคำนวณจากราคาหุ้น
ดังนั้น
ค่า Indicators ไม่ได้มีอำนาจควบคุมการเคลื่อนที่ของราคาหุ้นในอนาคต

    ในตอนหน้าผมจะมาแนะนำเกี่ยวกับการใช้งาน RSI ที่ถูกต้อง และเผยเคล็ดลับการใช้งาน RSI เพื่อใช้ซื้อขายหุ้นให้ได้กำไร ยังไงฝากติดตามผลงานด้วยนะครับ สำหรับบทความมนี้ขอลาไปก่อนครับ สวัสดีคร๊าบบบ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

3 ตัวช่วย รวยด้วยหุ้นเทคนิค(ตอนที่12)

3 ตัวช่วยรวยด้วยหุ้นเทคนิค ตอนที่ 11 “4 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ Indicators” by เทรดเดอร์พ่อลูกอ่อน ,Jul 1, 2015 12:55 PM writer of บทความ...